คุณสามารถดู Funding Rate และตัวนับเวลาถอยหลังไปยัง Funding Rate ถัดไปบน ApolloX ได้ด้านล่างนี้
(เว็บไซต์)
(แอป)
1. บทบาทของ Funding Rate
บทบาทสำคัญของ Funding Rate คือการจำกัดความแตกต่างของราคาระหว่างตลาด Perpetual Futures และตลาด Spot ที่เกี่ยวข้อง (Price Regression)
2. เหตุใด Funding Rate จึงมีความสำคัญ
สัญญา Futures แบบดั้งเดิมจะมีการชำระเป็นรายเดือนหรือรายไตรมาส ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของสัญญา เมื่อมีการชำระ (Settlement) ราคาตามสัญญาจะบรรจบกับราคา Spot และ Position ที่เปิดอยู่ทั้งหมดจะหมดอายุลง ตลาดแลกเปลี่ยนอนุพันธ์คริปโตจำนวนมากใช้สัญญา Perpetual Futures กันอย่างแพร่หลาย และได้รับการออกแบบให้คล้ายกับสัญญา Futures แบบดั้งเดิม อย่างไรก็ตาม สัญญา Perpetual Futures มีข้อแตกต่างที่สำคัญประการหนึ่ง
Perpetual Futures ต่างจากสัญญา Futures แบบดั้งเดิมตรงที่นักเทรดจะสามารถถือสัญญาได้ตลอดไปโดยไม่มีวันหมดอายุและไม่จำเป็นต้องติดตามเดือนที่ครบกำหนดตัวอย่างเช่น นักเทรดสามารถเปิด Short Position ไว้ได้โดยไม่มีกำหนดจนกว่า Position จะถูกปิด วิธีนี้จะทำให้การเทรด Perpetual Futures มีความคล้ายกับการเทรด Pair ในตลาด Spot อย่างไรก็ตาม สัญญา Perpetual Futures จะไม่ใช้วิธีการจ่ายชำระแบบดั้งเดิม ด้วยเหตุนี้ ตลาดแลกเปลี่ยนคริปโตจึงได้สร้างกลไกเพื่อรับรองว่าราคาสัญญา Perpetual Futures จะตรงกับ Index Price กลไกนี้เรียกว่า Funding Rate
3. Funding Rate คืออะไร
Funding Rate คือการชำระเงินให้กับนักเทรดที่ Long หรือ Short เป็นช่วงๆ โดยพิจารณาจากส่วนต่างของราคาระหว่าง Market Price ของสัญญา Perpetual กับ Spot Price ในช่วงตลาดขาขึ้น (Bullish) Funding Rate จะเป็นบวก และนักเทรดที่ Long จะจ่ายค่าธรรมเนียม Funding ให้กับนักเทรดที่ Short ในทางกลับกัน ในช่วงตลาดขาลง (Bearish) Funding Rate จะเป็นลบ และนักเทรดที่ Short จะจ่ายค่าธรรมเนียม Funding ให้กับนักเทรดที่ Long
ทั้งนี้ ApolloX จะไม่คิดค่าธรรมเนียมจากการโอน Funding Rate เนื่องจากผู้ใช้จะโอน Fund ให้กันเองโดยตรง จะมีการเก็บค่าธรรมเนียม Funding บน ApolloX ทุก 8 ชั่วโมง เวลา 00:00 น. (UTC), 08:00 น. (UTC) และ 16:00 น. (UTC) นักเทรดจะต้องรับผิดชอบต่อการชำระ Funding ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งหากมี Position ที่เปิดอยู่ในช่วงเวลา Funding ตามที่กำหนดไว้ล่วงหน้า นักเทรดที่ไม่มี Position ที่เปิดอยู่จะไม่ต้องจ่ายหรือได้รับ Funding ใดๆ
หมายเหตุ: เวลาเก็บค่าธรรมเนียม Funding จริงอาจคลาดเคลื่อนจากเวลาเก็บ 15 วินาที ตัวอย่างเช่น หากคุณเปิด Position ในเวลา 16:00:05 น. (UTC) คุณอาจยังถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียม Funding อยู่ ดังนั้นจึงควรสังเกตเวลาที่แน่นอนที่คุณเปิด Position
4. จำนวนเงิน Funding มีการคำนวณอย่างไร
Funding Amount = Notional Value of Positions × Funding Rate
Notional Value of Position = Mark Price × Number of Contracts
5. ระบบกำหนด Funding Rate อย่างไร
Funding Rate มีสององค์ประกอบ ได้แก่ อัตราดอกเบี้ย (Interest Rate) และ Premium โดย Premium จะอธิบายว่าเพราะเหตุใดราคาของสัญญา Perpetual จึงมาบรรจบกับแนวโน้มราคาของสินทรัพย์อ้างอิง ApolloX ใช้อัตราดอกเบี้ยคงที่ภายใน Funding Rate หากดอกเบี้ยที่ได้รับจากการถือเงินสดนั้นสูงกว่าดอกเบี้ยที่ได้รับจากการถือครอง BTC ที่เทียบเท่า ตามค่าเริ่มต้น อัตราดอกเบี้ยจะกำหนดไว้ที่ 0.03% ต่อวัน (0.01% ต่อช่วงการจ่ายชำระ Funding) และอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามปัจจัยตลาด เช่น Funds Rate ของรัฐบาลกลาง
ในช่วงที่มีความผันผวนสูง อาจมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างราคาของสัญญา Perpetual กับ Mark Price ในช่วงเวลาดังกล่าว ดัชนี Premium จะถูกนำมาใช้บังคับการบรรจบกันของราคาระหว่าง Futures Market Price กับ Spot Price คุณสามารถดูประวัติดัชนี Premium ได้ใน [ข้อมูล] / Info
ดัชนี Premium จะคำนวณแยกกันสำหรับแต่ละสัญญา โดยมีสูตรการคำนวณดังนี้
- Premium Index (P) = [Max (0, Impact Bid Price – Price Index) – Max (0, Price Index – Impact Ask Price )] / Price Index
- Impact Bid Price = Average fill price to execute the Impact Margin Notional on the Bid Price
- Impact Ask Price = Average fill price to execute the Impact Margin Notional on the Ask Price
- Price Index เป็นดัชนีรวมที่คำนวณจาก Basket ราคาจากตลาดแลกเปลี่ยน Spot รายใหญ่ต่างๆ ซึ่งจะนำมาถ่วงน้ำหนักด้วยปริมาณสัมพัทธ์ (Relative Volume)
- Impact Margin Notional (IMN) สำหรับสัญญา Perpetual Futures คือ Notional ที่ใช้ในการเทรดที่มี Margin มูลค่า 200 USDT (ราคาเสนอใน USDT); IMN = 200 USDT / Initial Margin Rate ที่เลเวอเรจสูงสุด
คลิกที่นี่เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเลเวอเรจและ Margin สำหรับ USDⓈ-M Perpetual Futures
สมมติว่า Bid Side ของ Order Book เป็นดังนี้

หากค่าคอมมิชชั่นสะสมที่เสนอที่ระดับ x มากกว่า IMN: Contract multiplier × ∑px × qx > IMN และหากค่าคอมมิชชันสะสมที่เสนอที่ระดับ x-1 น้อยกว่า IMN: Contract multiplier × ∑px-1 × qx-1 < IMN จากนั้นระบบจะนำ Impact Bid Price ที่ระดับ x มาใช้ในการคำนวณด้วย
สูตร:
Impact Bid Price = IMN / (IMN – Contract Multiplier × ∑px-1 × qx-1) / px + Contract Multiplier × ∑qx-1)